*สำหรับใครที่กำลังคิดจะขายหรือปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ที่ดิน หรืออื่นๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือการทำ สัญญาแต่งตั้งนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าของทรัพย์สินกับนายหน้า เพื่อให้ช่วยดำเนินการหาผู้ซื้อหรือผู้เช่าให้

*สัญญาแต่งตั้งนายหน้าฯ หลักๆ มีอยู่ 2 แบบ คือ สัญญาเปิด และ สัญญาปิด แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ลองมาดูกันแบบง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจและเลือกได้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด

สัญญาเปิด (Open Listing)

*สัญญาเปิด เปรียบเสมือนการ "เปิดกว้าง" ให้นายหน้าหลายๆ รายสามารถเข้ามาช่วยขายหรือปล่อยเช่าทรัพย์สินของเราได้ โดยที่เราไม่ได้ผูกมัดกับนายหน้ารายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ

ข้อดีของสัญญาเปิด:

* มีโอกาสเข้าถึงนายหน้าได้หลากหลาย: เราสามารถติดต่อและทำงานร่วมกับนายหน้าหลายคนได้ ทำให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อหรือผู้เช่าได้มากขึ้น

* เพิ่มโอกาสในการขาย/ปล่อยเช่าได้เร็วขึ้น: เมื่อมีนายหน้าหลายคนช่วยกันทำการตลาด โอกาสที่จะเจอผู้สนใจก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย

* มีความยืดหยุ่นสูง: เราสามารถยกเลิกสัญญากับนายหน้ารายใดก็ได้ หากไม่พอใจในการทำงาน หรือหากเราสามารถหาผู้ซื้อ/ผู้เช่าได้เอง โดยไม่ต้องเสียค่านายหน้า

* จ่ายค่านายหน้าเฉพาะนายหน้าที่สามารถหาผู้ซื้อ/ผู้เช่าได้เท่านั้น: หากเราขายหรือปล่อยเช่าทรัพย์สินได้เอง โดยที่ไม่มีนายหน้าคนใดเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็ไม่ต้องเสียค่านายหน้า

ข้อเสียของสัญญาเปิด:

* นายหน้าอาจไม่ทุ่มเทเท่าที่ควร: เนื่องจากมีการแข่งขันสูง และไม่มั่นใจว่าจะได้รับค่าตอบแทน นายหน้าบางรายอาจไม่ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรในการทำการตลาดทรัพย์สินของเรามากนัก

* การจัดการอาจยุ่งยาก: การติดต่อและประสานงานกับนายหน้าหลายๆ รายอาจทำให้เกิดความสับสนและเสียเวลาในการจัดการ

* ข้อมูลทรัพย์สินอาจไม่เป็นเอกภาพ: นายหน้าแต่ละรายอาจนำเสนอข้อมูลทรัพย์สินของเราในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับผู้สนใจได้

* ข้อมูลทรัพย์สินอาจไม่เป็นเอกภาพ: นายหน้าแต่ละรายอาจนำเสนอข้อมูลทรัพย์สินของเราในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับผู้สนใจได้

* อาจเกิดความขัดแย้งเรื่องค่านายหน้า: หากมีนายหน้าหลายรายอ้างว่าเป็นผู้พาผู้ซื้อ/ผู้เช่ามา อาจเกิดปัญหาในการตัดสินว่าใครคือผู้มีสิทธิ์ได้รับค่านายหน้า

สัญญาปิด (Exclusive Listing)

สัญญาปิด คือการที่เราตกลงมอบหมายให้นายหน้าเพียงรายเดียวเท่านั้น เป็นผู้มีสิทธิ์ในการขายหรือปล่อยเช่าทรัพย์สินของเราในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา

ข้อดีของสัญญาปิด:

* นายหน้ามีความมุ่งมั่นและทุ่มเท: เนื่องจากนายหน้าได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินการ พวกเขาจึงมีแรงจูงใจและทุ่มเทเวลา ทรัพยากร และความพยายามอย่างเต็มที่ในการทำการตลาดทรัพย์สินของเรา

* การจัดการง่ายและเป็นระบบ: เราติดต่อและประสานงานกับนายหน้าเพียงรายเดียว ทำให้การจัดการราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

* ข้อมูลทรัพย์สินมีความเป็นเอกภาพ: นายหน้าจะนำเสนอข้อมูลทรัพย์สินของเราในรูปแบบที่เป็นมาตรฐานและถูกต้อง

* ได้รับบริการที่ครบวงจร: นายหน้ามักจะให้คำปรึกษา ดูแลเอกสาร และดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย/เช่า อย่างครบถ้วน

ข้อเสียของสัญญาปิด:

* มีทางเลือกของนายหน้าน้อย: เราต้องเลือกนายหน้าเพียงรายเดียว หากเลือกนายหน้าที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้การขาย/ปล่อยเช่าเป็นไปได้ช้า

* อาจเสียค่านายหน้าแม้หาผู้ซื้อ/ผู้เช่าได้เอง: ในบางกรณีของสัญญาปิด หากเราสามารถหาผู้ซื้อ/ผู้เช่าได้เองในช่วงระยะเวลาสัญญา เราก็ยังคงต้องเสียค่านายหน้าให้กับนายหน้าที่เราทำสัญญาด้วย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในสัญญา)

* การยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดอาจมีค่าใช้จ่าย: หากเราต้องการยกเลิกสัญญาก่อนระยะเวลาที่กำหนด อาจมีค่าปรับหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญา

สรุปง่ายๆ: เลือกแบบไหนดี?

การเลือกว่าจะทำสัญญาแต่งตั้งนายหน้าแบบเปิดหรือแบบปิด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของเรา

* สัญญาเปิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อ/ผู้เช่าให้มากที่สุด มีเวลาในการจัดการและประสานงานกับนายหน้าหลายราย และมั่นใจว่าสามารถดูแลการตลาดเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง

* สัญญาปิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย มีนายหน้าที่ไว้วางใจ และต้องการให้นายหน้าทุ่มเทและให้บริการอย่างเต็มที่ในการดำเนินการขาย/ปล่อยเช่า

คำแนะนำเพิ่มเติม:

* อ่านสัญญาอย่างละเอียด: ไม่ว่าจะเป็นสัญญาเปิดหรือสัญญาปิด ควรอ่านรายละเอียดในสัญญาอย่างรอบคอบ ทำความเข้าใจในเงื่อนไข ข้อตกลง และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนลงนาม

* เลือกนายหน้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์: ควรศึกษาประวัติการทำงาน รีวิวจากลูกค้าเก่า และสอบถามข้อมูลจากคนรู้จัก เพื่อเลือกนายหน้าที่เหมาะสมกับทรัพย์สินของเรา

* เจรจาเงื่อนไขในสัญญา: สามารถเจรจาเรื่องระยะเวลาสัญญา อัตราค่านายหน้า และเงื่อนไขอื่นๆ ในสัญญาให้เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างสัญญาแต่งตั้งนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แบบเปิดและแบบปิดได้ง่ายขึ้น และสามารถตัดสินใจเลือกรูปแบบสัญญาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้นะคะ.

laroseproperty.com

🗝️ กุญแจสู่บ้านในฝันของคุณ!!

Contact

(065) 632-7897

(086) 440-1768

Bangkok, Thailand

Pin It on Pinterest

Share This